การบริโภคเนื้อแพะ เพื่อความยั่งยืน
ในหลายๆประเทศที่เจริญแล้ว ผู้บริโภคเนื้อสัตว์จะตระหนักถึงอันตราย และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความจำเป็นในการผลิตเนื้อสัตว์ ต้องมีเรื่องที่ดินเพื่อการเกษตรในการผลิตอาหาร การใช้น้ำ และใช้พลังงาน ประชาชนบริโภคเนื้อสัตว์ นม ในแต่ละวันจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เนื้อสัตว์ถูกจัดเข้าไปในกลุ่มของเนื้อสัตว์สีแดง ที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เนื้อแพะเป็นเนื้อที่มีการบริโภคมากที่สุดในโลก ประมาณร้อยละ 70 ของการบริโภคเนื้อแดงทั้งหมด นมแพะก็เป็นนมที่บริโภคมากที่สุดในโลกด้วย
เนื้อและผลิตภัณฑ์นม ที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด คือ เนื้อแกะ เนื้อวัวและชีส(เนยแข็ง) ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก
ในแง่ของคุณค่าทางโภชนาการ แพะเป็นทางเลือกด้านสุขภาพที่ดี เพราะเนื้อแพะมีไขมันต่ำมาก (แพะ 3% ไก่ 7.4% เนื้อวัว 18.8%) เนื้อแพะมีแคลอรี่น้อย และโคเลสเตอรอลน้อยกว่าเนื้อไก่ เนื้อสุกร เนื้อแกะ นมแพะยังมีโปรตีนสูง โคเลสเตอรอลต่ำ และมีแคลเซียม โปแตสเซียม และวิตามินมากกว่านมวัว นมแพะยังย่อยได้ง่ายและมีแลคโตสน้อยกว่า ร้อยละ 7 เป็นทางเลือกที่ดีให้สำหรับผู้ที่มีปัญหาระบบการย่อยอาหาร
จะเห็นได้ว่า ประชาชนประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตระหนักถึงอันตรายและมีผลต่อสิ่งแวดล้อม ในการบริโภคเนื้อสัตว์ ทำให้การผลิตและการบริโภคแพะในประเทศสหรัฐอเมริกาปัจจุบัน มีแพะเป็นสองเท่าของจำนวนแพะในช่วง 20 ปีที่แล้ว มีการประชาสัมพันธ์ โดยสมาคมผลิตภัณฑ์นมแพะ หรือสมาคมแพะบอรือเมริกัน มุ่งเน้นให้แพะเป็นทางเลือกด้านสุขภาพ และความยั่งยืน ทางเลือกใหม่แทนที่ เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อสุกร เนื้อแกะ
อย่างไรก็ตาม การผลิตแพะในประเทศไทย สามารถเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค เลือกบริโภคเนื้อแพะ นมแพะ เพื่อผลดีต่อสุขภาพผู้บริโภค และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นทางเลือกการบริโภคเนื้อแดงที่ค่อนข้างยั่งยืน เพราะแพะเป็นสัตว์กินใบไม้มากกว่าการแทะเล็มหญ้าอย่างวัวหรือแกะ ซึ่งแพะจะไม่ทำลายระบบรากต้นไม้ และไม่ทำให้ดินสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ จากการกินใบไม้พุ่มเตี้ย และวัชพืช แพะจึงช่วยลดการแย่งสารอาหารในดินของวัชพืช ทำให้ทุ่งหญ้ามีคุณภาพดีขึ้น และแพะัยังใช้พื้นที่เลี้ยงน้อยกว่าวัว
ผมได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์เผยแพร่ จุดเด่นการบริโภคเนื้อแพะ นมแพะ เพื่อสุขภาพที่ดี และผลกระัทบต่อสิ่งแวดล้อม ต่อพี่น้องเกษตรกรทุกครั้งที่ได้ไปเยี่ยมหรือมีโอกาสในคราวที่ได้ประชุม สัมมนา หรือแม้กระทั่งเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตรต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกษตรกรเลี้ยงแพะเพิ่มมากขึ้น บริโภคเนื้อแพะ นมแพะ เพิ่มมากขึ้น สร้างอาชีพที่มั่นคง เพิ่มรายได้ สร้างความสามัคคี รักชาติ รักแผ่นดิน
บทความโดย นายสัตวแพทย์วีรชัย วิโรจน์แสงอรุณ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา วันที่ 22 ก.พ. 2556