แนะนำเกษตรกรป้องกันโรคในไก่พื้นเมือง
นายสัตวแพทย์วีรชัย วิโรจน์แสงอรุณ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา แนะนำเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง ไก่ชน และไก่พื้นเมือง ให้เฝ้าระวังดูแลสุขภาพสัตว์ปีกของตนเองอย่างใกล้ชิดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงนี้้ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ติดตามและตรวจเยี่ยมเกษตรกรอย่างใกล้ชิด โดยหากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติมีอาการคล้ายโรคไข้หวัดนก จะทําลายสัตว์ปีกดังกล่าวทันทีแล้วค้นหาโรคเพิ่มเติมในรัศมี 10 กิโลเมตร โดยการเข้าสอบถามเกษตรกร(เคาะประตู)พร้อมทั้งทําความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครัวเรือนที่เลี้ยงสัตว์ปีก และให้ความรู้แก่เกษตรกรและประชาชนในการป้องกันและเฝ้าระวังโรคที่ถูกต้อง รวมทั้งขอความร่วมมือเกษตรกรงดเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก จนกว่าไม่มีสัตว์ปีกป่วยตายเพิ่มเติม
ด้วยปัจจุบันเป็นช่วงสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ส่งผลให้สัตว์ปีกที่ปล่อยหากินตามธรรมชาติเกิดความเครียด ภูมิคุ้มกันโรคในตัวลดลง อาจป่วยเป็นโรคระบาดไดโดยเฉพาะเป็ดไล่ทุ่ง ขอให้เกษตรกรเลี้ยงเป็ดให้ห่างจากถิ่นที่อยู่อาศัยของนกอพยพและนกธรรมชาติ บริเวณที่นอนของเป็ดควรหาวัสดุปูรองพื้นให้มีความอบอุ่น สามารถป้องกันลมหนาวได หากพบเป็ดป่วยตายให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตวหรือเจ้าหน้าที่ อบต.ทันที และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อโรค สําหรับไก่ชนขอให้ผู้เลี้ยงให้ความสําคัญต่อการไม่นำไก่ที่นำไปชนหรือไก่ที่หามาใหม่เข้ามาเลี้ยงร่วมกับฝูงไก่ที่เลี้ยงอยู่เดิม ขอให้เลี้ยงไว้ในสุ่มไก่หรือเล้าไก่ที่แยกห่างจากไก่ตัวอื่นเป็นเวลาอย่างน้อย 7วัน อธิบดีกรมปศุสัตวกล่าวเพิ่มเติมว่า สัตว์ปีกที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดที่สําคัญอีกชนิดหนึ่งคือ ไก่พื้นเมืองซึ่งมีประเด็นที่ขอความร่วมมือเกษตรกร คือ จัดทำเล้าหรือมีการล้อมบริเวณที่นอนด้วยตาข่ายหรือมุ้งเขียว ที่สามารถป้องกันนกธรรมชาติ ลมและฝนได้ ซึ่งจะส่งผลให้ไก่พื้นเมืองมี ความแข็งแรงทนทานต่อโรค อย่างไรก็ตาม การไม่นำสัตว์ปีกเคลื่อนย้ายไปในที่ต่างๆ จะเป็นวิธีป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาดได้ดีที่สุด ซึ่งหากจําเป็นต้องเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก ขอให้เกษตรกรแจ้งปศุสัตว์อําเภอเพื่อตรวจสุขภาพสัตวและขออนุญาตเคลื่อนย้ายตามกฎหมายก่อน และทําวัคซีนป้องกันโรคที่จําเป็นในสัตว์ปีก ตามที่สัตวแพทย์แนะนําอย่างต่อเนื่อง